ค่า FT หรือ ค่าไฟฟ้าผันแปร เป็นค่าไฟฟ้าส่วนที่ใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้า โดยคิดจากต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งเชื้อเพลิงเป็นหลัก ค่า FT จะถูกปรับทุก 4 เดือน ซึ่งถูกกำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไม่ใช่กำหนดจากการไฟฟ้าทั้ง 3 เจ้าของประเทศไทยแต่อย่างใด
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พบว่า แนวโน้มค่า FT ย้อนหลัง จนถึง รอบเดือน มกราคม-เมษายน 2567 มีดังนี้
- เดือนมกราคม-เมษายน 2566 ค่า FT อยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 2.47 สตางค์ต่อหน่วย
- เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ค่า FT อยู่ที่ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 2.24 สตางค์ต่อหน่วย
- เดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ค่า FT อยู่ที่ 20.48 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 77.42 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงเนื่องจากนโยบายการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ของรัฐบาล
- เดือนมกราคม-เมษายน 2567 ค่า FT อยู่ที่ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 69.07 สตางค์ต่อหน่วย
จากแนวโน้มค่า FT ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ค่า FT มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ และความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
การเพิ่มขึ้นของค่า FT ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยจะมีค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1 บาทต่อหน่วย / เดือน เช่น การใช้ไฟฟ้า 1,000 หน่วย จะเสียค่า ft ประมาณ 1,000 บาท โดยไม่รวมค่าไฟฟ้า
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนประหยัดพลังงานไฟฟ้า และลดผลกระทบต่อค่าครองชีพ ผู้ใช้ไฟฟ้าควรตระหนักถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ ดังนี้
• ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด โดยปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการ
• ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่น หลอดไฟ LED มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง และเครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน
• ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่น เครื่องตัดไฟอัตโนมัติ (AFCI) และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Home)
• หันมาใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวภาพ
นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า เช่น การให้ความรู้และคำแนะนำแก่ประชาชน การสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน และการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ผู้ใช้ไฟฟ้าจึงควรตระหนักถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพ